if มีกี่แบบ

IF มีกี่แบบ รวมทุกสูตรอดอาหาร ลดน้ำหนักแบบไหนเห็นผลเร็วสุด

ในปัจจุบัน Intermittent Fasting (IF) ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ต้องการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากเป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่ไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมหรือการออกกำลังกายอย่างหนักจนเกินไป หลายคนที่ต้องการลดไขมันสะสมและปรับปรุงระบบเผาผลาญของร่างกายต่างให้ความสนใจในแนวทางการอดอาหารเป็นช่วงเวลานี้ แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้น หลายคนอาจมีคำถามว่า IF มีกี่แบบ และแบบไหนเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด

Intermittent Fasting (IF) ไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบเดียว แต่มีหลายวิธีที่สามารถปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป บางรูปแบบเน้นการอดอาหารระยะสั้น เช่น IF 16/8 ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด ในขณะที่บางรูปแบบต้องมีวินัยสูง เช่น OMAD (One Meal A Day) ที่อนุญาตให้รับประทานเพียงมื้อเดียวต่อวัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่องและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

IF มีกี่แบบ และแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบของ Intermittent Fasting ที่ได้รับความนิยม พร้อมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับร่างกายและเป้าหมายของคุณได้ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่กำลังสนใจ วิธีลดน้ำหนัก ด้วยการอดอาหารเป็นช่วง หรือกำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

IF มีกี่แบบ รวมทุกสูตรที่นิยมใช้สำหรับการลดน้ำหนัก


Intermittent Fasting หรือ IF เป็นวิธีการอดอาหารเป็นช่วงเวลา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพ แนวคิดของ IF คือการกำหนดช่วงเวลาที่สามารถรับประทานอาหารได้ และช่วงเวลาที่ต้องงดอาหารหรือรับประทานเพียงเล็กน้อย หลักการนี้ไม่ได้เน้นการจำกัดปริมาณอาหาร แต่เป็นการควบคุมช่วงเวลาการกินให้เป็นระบบมากขึ้น วิธีลดน้ำหนักด้วย IF ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากช่วยให้ร่างกายสามารถดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน ลดระดับอินซูลิน และกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ปรับสมดุลฮอร์โมน และส่งเสริมการทำงานของสมอง

IF มีกี่แบบ รวมสูตรยอดนิยมที่หลายคนนิยมใช้

Intermittent Fasting มีหลายประเภท แต่ละแบบมีหลักการที่แตกต่างกันออกไป การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับร่างกายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการ ลดน้ำหนัก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลักดังนี้

if มีกี่แบบ

1. IF 16/8 สูตรยอดนิยม ทำง่าย เห็นผลไว

หลักการของ IF 16/8 เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการ ลดน้ำหนัก วิธีนี้คือการอดอาหาร 16 ชั่วโมง และมีช่วงเวลากินอาหาร 8 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น กินอาหารระหว่างเวลา 12.00 – 20.00 น. และงดอาหารตั้งแต่ 20.00 – 12.00 น. ของวันถัดไป

เหมาะสำหรับ

  • ผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองทำ IF
  • คนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบยั่งยืนโดยไม่ต้องอดอาหารนานเกินไป

ข้อดี

  • ทำได้ง่าย สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ง่าย
  • ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากนัก
  • มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี

ข้อเสีย

  • ช่วงแรกอาจรู้สึกหิว โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยอดอาหารมาก่อน

2. IF 5:2 ลดน้ำหนักแบบคุมแคลอรี 2 วันต่อสัปดาห์

หลักการของ IF 5:2 วิธีนี้คือการกินอาหารตามปกติ 5 วัน และใน 2 วันให้ลดปริมาณแคลอรีลงเหลือเพียง 500 – 600 แคลอรีต่อวัน

เหมาะสำหรับ

  • คนที่ไม่ต้องการอดอาหารทุกวัน
  • คนที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ยังสามารถกินอาหารที่ชอบได้ในบางวัน

ข้อดี

  • มีความยืดหยุ่น ไม่ต้องอดอาหารทุกวัน
  • สามารถลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทั้งหมด

ข้อเสีย

  • วันที่ต้องลดแคลอรีอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยและหิวมาก
  • อาจควบคุมปริมาณแคลอรีได้ยากในบางวัน

if ลดน้ำหนัก

3. OMAD (One Meal A Day) อดทั้งวัน กินแค่มื้อเดียว

หลักการของ OMAD เป็นการอดอาหารเป็นเวลา 23 ชั่วโมง และกินอาหารเพียงแค่ 1 มื้อใน 1 ชั่วโมงที่เหลือ ซึ่งต้องเป็นมื้อที่ให้พลังงานและสารอาหารเพียงพอ

เหมาะสำหรับ

  • คนที่ต้องการลดน้ำหนักเร็ว
  • คนที่สามารถควบคุมอาหารและไม่รู้สึกหิวง่าย

ข้อดี

  • ลดน้ำหนักได้เร็วเพราะลดปริมาณแคลอรีโดยอัตโนมัติ
  • ลดระดับอินซูลินและช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน

ข้อเสีย

  • ควบคุมสารอาหารที่ได้รับค่อนข้างยาก
  • อาจทำให้เกิดอาการหิวมากและส่งผลต่อพลังงานในระหว่างวัน

4. Warrior Diet กินมื้อใหญ่ช่วงค่ำ อด 20 ชั่วโมง

หลักการของ Warrior Diet เป็นวิธีที่เน้นการกินมื้อใหญ่ในช่วงเย็น โดยให้กินอาหารที่มีปริมาณมากภายในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ส่วนอีก 20 ชั่วโมงให้งดอาหารหรือกินเพียงอาหารเบาๆ เช่น ผักและผลไม้

เหมาะสำหรับ

  • คนที่ชอบกินมื้อใหญ่
  • คนที่ต้องการเลียนแบบพฤติกรรมการกินของมนุษย์ยุคโบราณ

ข้อดี

  • ลดน้ำหนักได้ดีเนื่องจากช่วงอดอาหารยาว
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการแบ่งมื้ออาหารหลายครั้ง

ข้อเสีย

  • อาจทำให้หิวระหว่างวัน
  • บางคนอาจกินมากเกินไปในช่วงเวลากิน

IF 17

5. Alternate Day Fasting (ADF) อดสลับวัน กินวันเว้นวัน

หลักการของ ADF เป็นการอดอาหารสลับวัน เช่น วันนี้กินอาหารตามปกติ พรุ่งนี้อดอาหาร 24 ชั่วโมง แล้ววันถัดไปกลับมากินตามปกติ

เหมาะสำหรับ

  • คนที่มีวินัยสูงและสามารถทนต่อการอดอาหารได้นาน
  • คนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

ข้อดี

  • ลดน้ำหนักได้ไวมาก
  • มีประโยชน์ต่อการเผาผลาญไขมัน

ข้อเสีย

  • ค่อนข้างหักดิบ อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • อาจรู้สึกหิวมากในวันอดอาหาร

6. Eat-Stop-Eat อดอาหาร 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

หลักการของ Eat-Stop-Eat เป็นการงดอาหารทั้งหมดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เช่น กินอาหารเย็นวันนี้ แล้วงดกินจนถึงเย็นวันรุ่งขึ้น

เหมาะสำหรับ

  • คนที่ต้องการรีเซ็ตร่างกาย
  • คนที่สามารถทนต่อการอดอาหารได้นาน

ข้อดี

  • กระตุ้นการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ไม่ต้องอดอาหารทุกวัน

ข้อเสีย

  • อดอาหารนาน อาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น
  • อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและพลังงานลดลง

IF แบบไหนลดน้ำหนักได้ผลเร็วสุด


เมื่อพูดถึง IF มีกี่แบบ และแบบไหนที่ช่วย ลดน้ำหนัก ได้ดีที่สุด คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกินของแต่ละคน ความสามารถในการปรับตัวของร่างกาย รวมถึงเป้าหมายที่ต้องการในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม มีบางสูตรที่ได้รับความนิยมสูงและมักให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับการลดไขมันและควบคุมน้ำหนัก

ประเภท IF หลักการทำงาน เหมาะกับใคร ข้อดี ข้อเสีย
OMAD (One Meal A Day) อดอาหาร 23 ชั่วโมง กินได้ 1 มื้อ ต้องการลดน้ำหนักเร็ว มีวินัยสูง ลดน้ำหนักได้เร็วมาก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี อาจทำให้ขาดสารอาหาร หิวมาก และมีอาการอ่อนเพลีย
16/8 อดอาหาร 16 ชั่วโมง กินได้ในช่วง 8 ชั่วโมง มือใหม่ที่เริ่มต้นทำ IF เป็น IF มีกี่แบบที่ทำได้ง่าย ไม่หักโหมเกินไป ช่วงแรกอาจรู้สึกหิว ต้องปรับตัวก่อนเห็นผล
5:2 กินปกติ 5 วัน อดบางส่วน (500-600 แคลอรี) 2 วันต่อสัปดาห์ คนที่ไม่อยากอดอาหารทุกวัน แต่ยังต้องการผลลัพธ์ สามารถลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องอดทุกวัน วันที่อดอาจรู้สึกเหนื่อยหรือไม่มีแรง

สูตร IF ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

จากการเปรียบเทียบทั้งสามสูตรจะเห็นได้ว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน สูตรที่ช่วย ลดน้ำหนัก ได้เร็วที่สุดมักเป็น OMAD เพราะมีช่วงเวลาอดอาหารที่นานที่สุด ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันสะสมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม OMAD อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารหากวางแผนมื้ออาหารไม่ดี ในขณะที่ IF 16/8 เป็นสูตรที่สมดุลและสามารถทำได้ต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกหิวมากเกินไป จึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบระยะยาว ส่วน IF 5:2 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการอดอาหารทุกวัน แต่ต้องมีวินัยในการจำกัดแคลอรีใน 2 วันที่กำหนด

IF เหมาะกับใคร และใครไม่ควรทำ


Intermittent Fasting หรือ IF เป็นหนึ่งใน วิธีลดน้ำหนัก ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องพึ่งพาการนับแคลอรี่อย่างเคร่งครัด หรืออดอาหารแบบสุดโต่ง หลักการของ IF คือการจำกัดช่วงเวลาการกินให้เป็นระบบ แทนที่จะเน้นการลดปริมาณอาหารหรือกำหนดแคลอรี่อย่างเข้มงวด ซึ่งช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

IF มีกี่แบบ และใครเหมาะกับการทำ IF การทำ IF มีหลายประเภท เช่น IF 16/8, IF 5:2, OMAD, Eat-Stop-Eat, Alternate Day Fasting และ Warrior Diet ซึ่งแต่ละแบบมีความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไป IF เหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

  • คนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพายาลดน้ำหนักหรืออาหารเสริม การทำ IF ช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คนที่ต้องการควบคุมอินซูลินและน้ำตาลในเลือด การอดอาหารเป็นช่วงเวลาส่งผลให้ระดับอินซูลินลดลง ซึ่งช่วยให้ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้ได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะดื้ออินซูลินที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานประเภทที่ 2
  • คนที่มีวินัยในการกินและสามารถควบคุมตัวเองได้ IF เป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่ต้องอาศัยความมีวินัยสูง เนื่องจากต้องงดอาหารในช่วงเวลาที่กำหนด หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจทำให้เกิดอาการหิวมากเกินไปและนำไปสู่การรับประทานอาหารเกินความจำเป็น

if ลดน้ำหนัก

ใครไม่ควรทำ IF แม้ว่า IF จะเป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่ให้ผลลัพธ์ดีในหลายคน แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการทำ IF หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มต้น

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น เบาหวาน ความดันต่ำ หรือโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ เนื่องจากการอดอาหารเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
  • ผู้ที่มีประวัติการกินผิดปกติ (Eating Disorder) เช่น อาการเบื่ออาหาร (Anorexia) หรือการกินมากเกินไป (Binge Eating Disorder) เนื่องจากการทำ IF อาจกระตุ้นพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติและทำให้สุขภาพจิตเสียหาย
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากร่างกายของแม่ต้องการพลังงานและสารอาหารที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของทารก การทำ IF อาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและส่งผลต่อสุขภาพของทั้งแม่และลูก

เคล็ดลับทำ IF ให้ได้ผล ลดน้ำหนักได้จริง


Intermittent Fasting หรือ IF เป็นแนวทางการอดอาหารเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เนื่องจากช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญ ลดไขมันสะสม และควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การทำ IF ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่การกำหนดช่วงเวลากินและอดอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ดี ลดอาการอ่อนเพลีย และป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน

  • เริ่มจากสูตรที่ง่ายก่อน เช่น 16/8

หากสงสัยว่า IF มีกี่แบบ และไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ควรเริ่มจากสูตรที่ง่ายและได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง IF 16/8 สูตรนี้เป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถปรับตัวได้ง่ายกว่าแบบอื่น โดยการอดอาหาร 16 ชั่วโมงและรับประทานในช่วง 8 ชั่วโมงที่เหลือ เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองทำ IF เป็นครั้งแรก เพราะไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินมากจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีและกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดี

  • ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อลดความหิว

ระหว่างช่วงอดอาหาร ร่างกายอาจเกิดความรู้สึกหิวหรืออ่อนเพลีย เนื่องจากยังไม่คุ้นชินกับรูปแบบการรับประทานอาหารใหม่ หนึ่งใน วิธีลดน้ำหนัก ที่สำคัญเมื่อทำ IF คือการดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำมากขึ้นช่วยลดความหิวและป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้นขณะอดอาหาร นอกจากนี้ น้ำยังช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเลือกดื่มน้ำเปล่า ชาเขียวไม่ใส่น้ำตาล หรือกาแฟดำระหว่างช่วงอดอาหารเพื่อช่วยลดอาการหิว

if ลดน้ำหนัก

  • เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันดี เพื่อลดการโหย

แม้ว่า IF จะเน้นการควบคุมช่วงเวลาการกินมากกว่าการจำกัดประเภทอาหาร แต่การเลือกอาหารที่เหมาะสมก็มีผลโดยตรงต่อการลดน้ำหนัก การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดีในช่วงเวลากิน จะช่วยให้ร่างกายอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และรักษาระดับพลังงานให้คงที่ อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น อกไก่ ไข่ ปลา และถั่วต่างๆ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ไขมันดีจากอะโวคาโด ถั่ว น้ำมันมะกอก และปลาแซลมอน ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ซึ่งช่วยลดปริมาณแคลอรีที่บริโภคโดยรวม

  • นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อควบคุมฮอร์โมนหิว

หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อ วิธีลดน้ำหนัก ด้วย IF คือการนอนหลับให้เพียงพอ คุณภาพการนอนหลับมีผลโดยตรงต่อระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม ฮอร์โมนเกรลินที่กระตุ้นความอยากอาหารจะเพิ่มขึ้นเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน ฮอร์โมนเลปตินที่ทำให้รู้สึกอิ่มจะลดลง ส่งผลให้รู้สึกหิวบ่อยและอาจทำให้รับประทานอาหารเกินความจำเป็น หากต้องการให้การทำ IF มีประสิทธิภาพและช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริง ควรเข้านอนให้ตรงเวลา นอนให้ครบ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือจออิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนเพื่อลดการรบกวนของแสงสีฟ้าที่อาจทำให้คุณภาพการนอนลดลง

Intermittent Fasting หรือ IF มีกี่แบบ คำถามนี้เป็นที่สนใจของหลายคนที่ต้องการใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นช่วงเวลา ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือก วิธีลดน้ำหนัก ด้วย Intermittent Fasting ควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และความสามารถในการปรับตัวของร่างกาย ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถอดอาหารเป็นเวลานานได้ ดังนั้นจึงควรเลือก IF ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของแต่ละคน

แม้ว่า Intermittent Fasting จะเป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะกับทุกคน ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตต่ำ หรือผู้ที่มีประวัติการกินผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทำ IF นอกจากนี้ การอดอาหารเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า หรือทำให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ หากปฏิบัติไม่ถูกต้อง IF มีกี่แบบ คำตอบคือมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก และแต่ละแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักสามารถเลือก IF ที่เหมาะสมกับตัวเองได้โดยพิจารณาจากความสะดวกในการปฏิบัติและเป้าหมายของตนเอง คุณเคยลองทำ IF แบบไหนแล้วได้ผลดีที่สุด มาแชร์ประสบการณ์กันเพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังมองหาวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับตัวเองปรึกษาปัญหาลดน้ำหนัก

แชร์บทความดีๆ ให้ทุกคนได้อ่าน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart
0