IF 16/8 กินแบบไหนให้ลดน้ำหนักได้จริง
การเลือกอาหารที่เหมาะสมกับการทำ IF 16/8 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น การอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง และรับประทานอาหารภายในช่วง 8 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมัน แต่หากเลือกอาหารที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักลดลง หรืออาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลักการเลือกอาหารที่เหมาะกับ IF 16/8
เมื่อรับประทานอาหารในช่วง 8 ชั่วโมง ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และมีสัดส่วนสารอาหารที่สมดุลเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ และไม่กระตุ้นระดับอินซูลินมากเกินไป หลักการเลือกอาหารสำหรับ IF 16/8 ควรคำนึงถึง
-
เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง
โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการรักษามวลกล้ามเนื้อ และช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น การเลือกแหล่งโปรตีนคุณภาพดี เช่น อกไก่ ไข่ ถั่ว หรือปลา จะช่วยส่งเสริมการเผาผลาญและลดการสูญเสียกล้ามเนื้อระหว่างการทำ วิธีลดน้ำหนัก -
บริโภคไขมันดี
ไขมันดีจากแหล่งธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด และถั่ว ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและลดไขมันสะสมในร่างกาย ไขมันเหล่านี้ยังช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอระหว่างช่วงที่ไม่ได้รับประทานอาหาร -
กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานที่จำเป็น แต่ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ควินัว และมันหวาน ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และลดความเสี่ยงในการสะสมไขมัน -
เพิ่มไฟเบอร์และวิตามินจากผักและผลไม้
ผักใบเขียวและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงช่วยลดความอยากอาหาร และปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น เบอร์รี่ แอปเปิล และกีวี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารโดยไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินไป
ประเภทอาหารที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ IF 16/8 มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาหารที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ได้แก่
- ชาเขียว ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานและลดไขมันในร่างกาย
- พริกไทยดำและเครื่องเทศ มีสารที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญและลดไขมันสะสม
- อาหารที่มีโปรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต และกิมจิ ช่วยปรับสมดุลลำไส้และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร
ตัวอย่างสารอาหารที่ควรมีในแต่ละมื้อ
เพื่อให้การทำ IF 16/8 ได้ผล ควรคำนึงถึงสารอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ
- มื้อแรกของวัน ควรเป็นมื้อที่ให้พลังงานสูง มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันดี เช่น ข้าวกล้อง อกไก่ ผักใบเขียว
- มื้อกลางวัน ควรมีสัดส่วนโปรตีนและไขมันดีที่เพียงพอ เช่น ปลาแซลมอนกับผักนึ่ง
- มื้อสุดท้ายของวัน ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและไม่หนักเกินไป เช่น สลัดผักกับไข่ต้ม หรือสมูทตี้โปรตีน
อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อลดไขมันและไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น
การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผลลัพธ์ของ IF 16/8 ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- อาหารแปรรูปและฟาสต์ฟู้ด มีไขมันทรานส์และน้ำตาลสูง ทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น
- ขนมขบเคี้ยวและของหวาน น้ำตาลและแป้งขัดสีในขนมทำให้ระดับอินซูลินพุ่งสูง และลดประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมัน
- น้ำหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำตาลในเครื่องดื่มสามารถทำลายสมดุลของการทำ IF และอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
5 เมนูอาหาร IF 16/8 ลดน้ำหนัก ที่ต้องลอง
การเลือกอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ทำ IF 16/8 เพราะจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนที่ต้องการ ลดน้ำหนัก อาจสงสัยว่าควรรับประทานอะไรในช่วงเวลากินเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด อาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ลดความอยากอาหาร และส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ในบทความนี้จะนำเสนอ 5 เมนู IF 16/8 ที่ช่วยสนับสนุน วิธีลดน้ำหนัก อย่างได้ผล
1. ไข่ลวก + อะโวคาโด + อกไก่ย่าง
เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนและไขมันดีในมื้ออาหาร IF 16/8 ควรเน้นอาหารที่ให้พลังงานยาวนาน ลดความหิวระหว่างวัน และไม่กระตุ้นอินซูลินมากเกินไป ไข่ลวกเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเพิ่มความอิ่ม อะโวคาโดให้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ อกไก่เป็นแหล่งโปรตีนลีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและรักษามวลกล้ามเนื้อขณะลดน้ำหนัก
ประโยชน์ของเมนูนี้
- ให้พลังงานยาวนาน โปรตีนและไขมันดีช่วยให้ร่างกายอิ่มนาน ลดความอยากอาหารระหว่างวัน
- กระตุ้นการเผาผลาญ ไขมันดีจากอะโวคาโดช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานมาใช้ได้ดีขึ้น
- ช่วยลดน้ำหนัก โปรตีนสูงจากไข่และอกไก่ช่วยคงมวลกล้ามเนื้อ ลดการสะสมไขมัน
- ลดการกระตุ้นอินซูลิน อาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันดีช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายควบคู่ไปกับการทำ IF 16/8
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- อะโวคาโด ½ ลูก
- อกไก่ 150 กรัม
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
- เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
- ผักสด เช่น ผักกาดหอม มะเขือเทศ หรือแตงกวา (เสริมความสดชื่นและไฟเบอร์)
วิธีทำ
- เตรียมไข่ลวก
- ย่างอกไก่ให้ฉ่ำและนุ่ม
- เตรียมอะโวคาโด
- จัดจานและเสิร์ฟ
2. สลัดทูน่า + น้ำมันมะกอก + อัลมอนด์
เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร IF 16/8 โดยเน้นไปที่การลดการอักเสบของร่างกายและช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนและโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดการสะสมของไขมัน น้ำมันมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดไขมันสะสมในช่องท้อง อัลมอนด์ให้โปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันดีที่ช่วยทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร
ประโยชน์ของเมนูนี้
- ช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย ทูน่าอุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบและควบคุมระดับไขมันในเลือด
- เพิ่มการเผาผลาญไขมัน น้ำมันมะกอกมีกรดไขมันที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานและลดไขมันส่วนเกิน
- ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร อัลมอนด์มีไฟเบอร์และโปรตีนที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้หิวบ่อย
- เหมาะสำหรับการทำ IF 16/8 เมนูนี้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดพลังงานในช่วง Fasting
- ช่วยบำรุงหัวใจ ไขมันดีจากน้ำมันมะกอกและอัลมอนด์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
วัตถุดิบ
- ทูน่าในน้ำแร่ 1 กระป๋อง (เลือกแบบไม่ใส่น้ำมัน)
- ผักสลัดรวม 1 ถ้วย (เช่น ผักกาดหอม, เรดโอ๊ค, กรีนโอ๊ค, ร็อคเก็ต)
- มะเขือเทศเชอร์รี่ 5-6 ลูก (หั่นครึ่ง)
- แตงกวาญี่ปุ่น ½ ลูก (หั่นแว่นบาง)
- อัลมอนด์อบ 10-12 เม็ด (สับหยาบ)
- น้ำมันมะกอก Extra Virgin 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเลมอนหรือน้ำมะนาว ½ ช้อนโต๊ะ
- เกลือหิมาลัย ¼ ช้อนชา
- พริกไทยดำป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมผักสลัด ล้างและสะเด็ดน้ำให้แห้ง ใส่ลงในชามสลัด
- เตรียมทูน่า เทน้ำออกจากทูน่า แล้วใช้ส้อมยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ
- เตรียมน้ำสลัด ผสมน้ำมันมะกอก, น้ำเลมอน, เกลือหิมาลัย และพริกไทยดำ คนให้เข้ากัน
- ประกอบเมนู ใส่ทูน่า มะเขือเทศเชอร์รี่ และแตงกวาลงไปในชามผักสลัด
- ราดน้ำสลัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วโรยอัลมอนด์สับลงบนสลัด
- พร้อมเสิร์ฟ ทานทันทีเพื่อคงความสดของผักและรสชาติของน้ำสลัด
3. โยเกิร์ต + เบอร์รี่ + เมล็ดเจีย
สำหรับผู้ที่ชอบของหวานในช่วงเวลากิน IF 16/8 เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพและช่วยสนับสนุน วิธีลดน้ำหนัก โยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลลำไส้และลดการอักเสบในร่างกาย เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เมล็ดเจียเป็นแหล่งของไฟเบอร์และโอเมก้า-3 ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและช่วยในกระบวนการเผาผลาญ
ประโยชน์ของเมนูนี้
- ช่วยปรับสมดุลลำไส้ โยเกิร์ตมีโปรไบโอติกที่ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เบอร์รี่มีไฟเบอร์สูง ลดการพุ่งขึ้นของน้ำตาลในเลือด ช่วยให้พลังงานคงที่ระหว่างการทำ IF 16/8
- ช่วยให้อิ่มนานขึ้น เมล็ดเจียสามารถดูดน้ำและพองตัว ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน ลดความหิวระหว่างช่วงอดอาหาร
- เพิ่มพลังงานและช่วยเผาผลาญไขมัน โอเมก้า-3 ในเมล็ดเจียช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
วัตถุดิบ
- โยเกิร์ต (ชนิดกรีกโยเกิร์ตหรือนมอัลมอนด์) ½ ถ้วย
- เบอร์รี่ (สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่) ½ ถ้วย
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้งหรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติ (ไม่จำเป็น) 1 ช้อนชา
- ถั่วอัลมอนด์หรือวอลนัท (เพิ่มความกรุบกรอบ) 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เทโยเกิร์ตลงในถ้วยขนาดกลาง
- ใส่เบอร์รี่ที่ล้างสะอาดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- โรยเมล็ดเจียและถั่วอัลมอนด์เพิ่มความกรุบกรอบ
- หากต้องการเพิ่มความหวาน สามารถเติมน้ำผึ้งเล็กน้อย
- คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีเพื่อให้เมล็ดเจียพองตัว ก่อนรับประทาน
4. ข้าวกล้อง + ปลาแซลมอน + ผักนึ่ง
เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมื้อหลักของ IF 16/8 โดยให้พลังงานที่สมดุลและช่วยควบคุมระดับอินซูลิน ปลาแซลมอนเป็นแหล่งโปรตีนและไขมันดีที่ช่วยลดการสะสมของไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ข้าวกล้องเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยให้พลังงานคงที่และลดการพุ่งขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด ผักนึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น
ประโยชน์ของเมนูนี้
- เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับมื้อหลักของ IF 16/8 ช่วยให้พลังงานสมดุลและช่วยควบคุมระดับอินซูลิน
- ปลาแซลมอนเป็นแหล่งโปรตีนและไขมันดีที่ช่วยลดการสะสมของไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
- ข้าวกล้องเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยให้พลังงานคงที่ ลดการพุ่งขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน
- ผักนึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญและส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร
วัตถุดิบ
- ข้าวกล้อง 1/2 ถ้วย
- ปลาแซลมอนสด 1 ชิ้น (ประมาณ 150 กรัม)
- บรอกโคลี 1/2 ถ้วย
- แครอท 1/4 ถ้วย
- ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
- เกลือและพริกไทย ตามชอบ
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
- มะนาวฝานบาง สำหรับเพิ่มรสชาติ
วิธีทำ
- เตรียมข้าวกล้อง
- เตรียมปลาแซลมอน
- เตรียมผักนึ่ง
- จัดจานและเสิร์ฟ
5. สมูทตี้โปรตีน + อะโวคาโด + เมล็ดแฟลกซ์
เมนูนี้เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับช่วงเช้าหรือหลังออกกำลังกายในช่วงเวลากินของ IF 16/8 สมูทตี้โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น อะโวคาโดช่วยเพิ่มไขมันดีและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น เมล็ดแฟลกซ์มีไฟเบอร์สูงช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเผาผลาญ
ประโยชน์ของเมนูนี้
- ให้โปรตีนสูง ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- อะโวคาโดช่วยเพิ่มไขมันดี ทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร
- เมล็ดแฟลกซ์มีไฟเบอร์สูง ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร
- เป็นแหล่งพลังงานที่ดี เหมาะสำหรับช่วงเช้าหรือหลังออกกำลังกาย
- กระตุ้นระบบเผาผลาญ ช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วัตถุดิบ
- เวย์โปรตีน 1 สกูป (เลือกสูตรไม่มีน้ำตาล)
- อะโวคาโด ½ ลูก
- เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
- นมอัลมอนด์หรือนมพืช 200 มิลลิลิตร
- กล้วย ½ ลูก (เพิ่มความหวานจากธรรมชาติ)
- น้ำแข็ง ½ แก้ว
วิธีทำ
- ใส่เวย์โปรตีน นมอัลมอนด์ และอะโวคาโดลงในเครื่องปั่น
- เติมเมล็ดแฟลกซ์และกล้วยลงไปเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติ
- ใส่น้ำแข็งลงไปตามต้องการ ปั่นจนเนื้อเนียนเป็นสมูทตี้
- เทใส่แก้วพร้อมดื่ม
เมนูทั้ง 5 นี้สามารถช่วยให้การทำ IF 16/8 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ผู้ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก สามารถเลือกเมนูที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองและปรับให้เข้ากับตารางการกินของแต่ละวันได้
เคล็ดลับเลือกอาหาร IF ให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
การเลือกอาหารให้เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การทำ IF 16/8 มีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วขึ้น หลักการเลือกอาหารที่ดีควรเน้นไปที่อาหารที่ให้พลังงานอย่างเหมาะสม ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเกินไป และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
1. ควรเลือกโปรตีนสูงและไขมันดี
โปรตีนเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำ IF 16/8 เพื่อ ลดน้ำหนัก และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การทำ IF ประสบความสำเร็จคือการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ และลดความอยากอาหารในระหว่างช่วงที่อดอาหาร โปรตีนสามารถช่วยให้ร่างกายอิ่มนานขึ้น เนื่องจากต้องใช้เวลาย่อยและดูดซึมนานกว่าอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต จึงช่วยลดอาการหิวระหว่างมื้อ และทำให้ควบคุมการบริโภคแคลอรีได้ดีขึ้น
แหล่งโปรตีนที่ดีที่ควรเลือกสำหรับการทำ อาหาร IF 16/8 ได้แก่
- อกไก่ เป็นแหล่งโปรตีนไขมันต่ำที่ให้พลังงานสูง และมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
- เนื้อปลา โดยเฉพาะปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
- ไข่ขาว เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่มีไขมันต่ำและให้กรดอะมิโนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- ถั่วและพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วลิสง ถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วลูกไก่ ซึ่งมีโปรตีนและไฟเบอร์สูงช่วยให้อิ่มนาน
- เต้าหู้และเทมเป้ เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีกรดอะมิโนครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์
นอกจากโปรตีนแล้ว ไขมันดีเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของ IF 16/8 ที่ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอและช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ไขมันที่ดีต่อสุขภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
แหล่งไขมันดีที่ควรบริโภคในช่วงมื้ออาหาร IF ได้แก่
- อะโวคาโด เป็นแหล่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยลดไขมันสะสมในร่างกายและทำให้รู้สึกอิ่ม
- น้ำมันมะกอก มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- ถั่วอัลมอนด์ วอลนัท และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อุดมไปด้วยไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
- เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเจีย เป็นแหล่งของโอเมก้า-3 และไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
2. หลีกเลี่ยงน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักและการเผาผลาญไขมันในระหว่างการทำ IF 16/8 คือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อาหารที่มีน้ำตาลสูงและคาร์โบไฮเดรตขัดสี เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง สามารถทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น เมื่อบริโภคน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตขัดสี ร่างกายจะตอบสนองโดยการปล่อยอินซูลินออกมาเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แม้กระบวนการนี้จะเป็นกลไกทางธรรมชาติของร่างกาย แต่หากระดับน้ำตาลพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะเร่งกระบวนการจัดเก็บน้ำตาลส่วนเกินเป็นไขมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลตกในภายหลัง ส่งผลให้รู้สึกหิวเร็วขึ้น ต้องการอาหารเพิ่มเติม และทำให้การควบคุมปริมาณอาหารทำได้ยากขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีและมีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ซึ่งรวมถึงข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมอบ และขนมปังที่ไม่ได้ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ด อาหารเหล่านี้ถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้นและเกิดการสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น หากต้องการให้การทำ อาหาร IF 16/8 มีประสิทธิภาพและช่วยให้ ลดน้ำหนัก ได้ผล ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแหล่งพลังงานคุณภาพสูง เช่น ข้าวกล้อง ควินัว มันหวาน ข้าวโอ๊ต และผักใบเขียว ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้า ๆ ลดการพุ่งขึ้นของระดับน้ำตาล และทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น นอกจากนี้ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นโดยไม่เพิ่มไขมันสะสม การลดหรือละเว้นน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การทำ อาหาร IF 16/8 มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้การ ลดน้ำหนัก เป็นไปได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำตาลตกหรือความรู้สึกหิวระหว่างวัน
















