ทํา IF กินอะไรได้บ้าง

ไม่รู้ไม่ได้ ทำ IF กินอะไรได้บ้าง กินผิดอาจทำให้ลดน้ำหนักพัง

ทำ IF กินอะไรได้บ้าง? คำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้วิธี Intermittent Fasting (IF) เป็นแนวทางในการ ลดน้ำหนัก และปรับพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น การทำ IF เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะช่วยควบคุมแคลอรี กระตุ้นการเผาผลาญ และช่วยให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนที่เริ่มต้น วิธีลดน้ำหนัก ด้วย IF อาจไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง เนื่องจากเลือกอาหารที่ไม่เหมาะสม อาจเผลอกินอาหารที่กระตุ้นระดับอินซูลิน หรือทำให้ร่างกายไม่สามารถเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้ ลดน้ำหนัก ได้ช้าลง หรือในบางกรณี น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ทำ IF กินอะไรได้บ้าง และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ของการทำ IF ได้เร็วขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเคยทำ IF มาแล้วแต่ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร การเลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงเวลาอดอาหารและช่วงเวลารับประทานอาหารจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณ ลดน้ำหนัก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหาแนวทาง วิธีลดน้ำหนัก ด้วย IF และอยากรู้ว่าอาหารชนิดใดสามารถกินได้โดยไม่ทำให้หลุดจากโหมดเผาผลาญไขมัน หรืออาหารใดที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันไม่ให้ผลลัพธ์ของ IF ลดลง มาดูรายละเอียดในบทความนี้เพื่อปรับการกินให้เหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำ IF

ทำ IF คืออะไร เข้าใจหลักการก่อนเลือกอาหาร


Intermittent Fasting (IF) คือ วิธีลดน้ำหนัก ที่ได้รับความนิยมโดยอาศัยการสลับช่วงเวลากินและอดอาหาร เพื่อช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันสะสมมาใช้แทนน้ำตาล การทำ IF ไม่ได้กำหนดประเภทอาหารที่ต้องกินโดยตรง แต่เน้นการจัดระยะเวลาการกินให้เหมาะสม

หลักการทำงานของ IF กับร่างกาย เมื่อร่างกายไม่ได้รับอาหารเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระดับอินซูลินจะลดลง ส่งผลให้ร่างกายเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมัน (Ketosis) ซึ่งช่วยให้สามารถใช้พลังงานจากไขมันสะสมแทนคาร์โบไฮเดรตได้ดีขึ้น กระบวนการนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้การทำ IF ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของ IF ในการเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนัก

  1. ช่วยลดระดับอินซูลิน  เมื่ออินซูลินลดลง ร่างกายจะเริ่มดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน
  2. กระตุ้นกระบวนการ Ketosis  IF ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่เผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดไขมันสะสมโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
  3. ควบคุมความหิวได้ดีขึ้น  ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว ทำให้สามารถควบคุมปริมาณอาหารที่กินได้ง่ายขึ้น
  4. ลดแคลอรีโดยไม่ต้องคุมอาหารมากเกินไป แม้จะไม่มีการกำหนดชนิดอาหารที่ต้องกิน แต่การมีช่วงเวลาที่จำกัดในการกินจะช่วยลดปริมาณแคลอรีที่บริโภคลงโดยอัตโนมัติ
  5. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง  IF มีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกาย กระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ และลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของสมอง

ความสำคัญของการเลือกอาหารที่ถูกต้องในการทำ IF แม้ว่าการทำ IF จะช่วยให้ร่างกายเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมันได้ แต่การเลือกอาหารที่เหมาะสมก็มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพของการลดน้ำหนัก หากเลือกกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวในช่วงที่สามารถกินได้ อาจทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปและทำให้ร่างกายหยุดใช้ไขมันเป็นพลังงาน สำหรับผู้ที่สงสัยว่า “ทำ IF กินอะไรได้บ้าง” การเลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังช่วยลดอาการหิวระหว่างวันและทำให้การทำ IF เป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ทํา IF กินอะไรได้บ้าง

ทำ IF กินอะไรได้บ้าง อาหารที่แนะนำในช่วงอด-ช่วงกิน


การทำ Intermittent Fasting (IF) เป็นหนึ่งใน วิธีลดน้ำหนัก ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันและควบคุมระดับอินซูลิน แต่หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ทำ IF กินอะไรได้บ้าง?” เพราะหากเลือกอาหารไม่เหมาะสม อาจทำให้ร่างกายออกจากโหมดเผาผลาญ ส่งผลให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำ IF ได้ผลดี ควรรู้จักประเภทของอาหารที่เหมาะสมในช่วงอดอาหาร (Fasting Window) และช่วงกินอาหาร (Feeding Window) เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นโดยไม่กระทบกระบวนการลดน้ำหนัก

อาหารที่กินได้ช่วงอดอาหาร (Fasting Window)

ในช่วงอดอาหาร การเลือกเครื่องดื่มและอาหารที่ไม่ทำให้ระดับอินซูลินพุ่งขึ้น เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินไป อาจทำให้เข้าสู่โหมดสะสมไขมันแทนที่จะเป็นการเผาผลาญ อาหารและเครื่องดื่มที่แนะนำในช่วงอดอาหาร ได้แก่

  • น้ำเปล่า  ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย และลดความหิว
  • กาแฟดำ / ชาไม่ใส่น้ำตาล  มีคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันโดยไม่กระทบระดับอินซูลิน
  • น้ำมะนาวเจือจาง (ไม่ใส่น้ำผึ้ง)  ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ลดอาการอยากอาหาร
  • น้ำโซดา (ไม่มีน้ำตาล)  เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความซ่าโดยไม่กระทบการทำ IF
  • น้ำซุปใส (Bone broth)  มีคอลลาเจนและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงร่างกายโดยไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น

อาหารที่ควรกินในช่วงกินอาหาร (Feeding Window)

หลังจากอดอาหารมานาน ร่างกายต้องการสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูและช่วยให้กระบวนการ ลดน้ำหนัก ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง การเลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาหารที่ควรกินในช่วงกินอาหาร ได้แก่

1. โปรตีนสูง โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างกล้ามเนื้อและช่วยให้อิ่มนาน

  • อกไก่
  • ปลา
  • ไข่
  • เต้าหู้
  • ถั่ว

2. ไขมันดี ไขมันดีช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน

  • อะโวคาโด
  • น้ำมันมะกอก
  • ถั่วอัลมอนด์
  • วอลนัท

3. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างยั่งยืน และช่วยลดความอยากอาหาร

  • ข้าวกล้อง
  • มันหวาน
  • ควินัว
  • ขนมปังโฮลวีต

4. ไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และลดความอยากอาหารระหว่างมื้อ

  • ผักใบเขียว
  • เบอร์รี่
  • อะโวคาโด

5. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ช่วยเติมความสดชื่นและให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์

  • สมูทตี้ผัก
  • น้ำมะพร้าว
  • น้ำหมักผลไม้ (Infused Water)

ทํา IF กินอะไรได้บ้าง

การเลือกกินอาหารให้เหมาะสมในช่วงกินอาหารช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น ลดโอกาสในการสะสมไขมัน และช่วยให้กระบวนการลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำ IF ให้ได้ผลจำเป็นต้องเลือกอาหารที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทํา IF กินอะไรได้บ้าง จึงเป็นคำถามสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ การเลือกกินอาหารที่ดีในช่วงอดอาหารและช่วงกินอาหารมีผลโดยตรงต่อความสำเร็จในการ ลดน้ำหนัก หากทำถูกต้อง จะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นและสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว

อาหารที่ควรเลี่ยงขณะทำ IF ถ้าไม่อยากลดน้ำหนักพัง


หากคุณกำลังสงสัยว่า ทำ IF กินอะไรได้บ้าง และต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผล สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เลือกอาหารที่กินได้เท่านั้น แต่ยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ร่างกายหลุดจากโหมดเผาผลาญไขมัน ซึ่งอาจทำให้กระบวนการลดน้ำหนักช้าลงหรือไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง การรู้ว่าอาหารประเภทใดควรหลีกเลี่ยงจะช่วยให้คุณทำ IF ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. อาหารแปรรูปสูง

อาหารแปรรูปมักเต็มไปด้วยสารกันเสีย โซเดียมสูง และไขมันที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งอาจทำให้ระดับอินซูลินพุ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างกายหยุดกระบวนการเผาผลาญไขมัน ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่

  • ขนมขบเคี้ยว เช่น มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ ขนมกรุบกรอบ
  • ไส้กรอก เบคอน แฮม ลูกชิ้น ซึ่งมักมีสารเติมแต่งและโซเดียมสูง
  • อาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและแป้งขัดสี

2. น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี

น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสีเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น และลดประสิทธิภาพของการเผาผลาญไขมัน หากคุณต้องการให้ IF ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

  • เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุก
  • ขนมหวาน เช่น เค้ก โดนัท คุกกี้
  • คาร์โบไฮเดรตขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว เส้นก๋วยเตี๋ยวแบบขัดสี

3. อาหารทอดและไขมันทรานส์

ไขมันทรานส์เป็นไขมันที่ร่างกายเผาผลาญได้ยากและอาจเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจและระบบเผาผลาญ นอกจากนี้อาหารทอดยังมีแคลอรีสูง ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป ส่งผลให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยากขึ้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่

  • เฟรนช์ฟรายส์ มันฝรั่งทอด อาหารทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ
  • โดนัท ขนมอบที่มีมาการีนหรือเนยขาวเป็นส่วนผสม
  • ขนมขบเคี้ยวที่ผ่านการทอด เช่น ป๊อปคอร์นเนย ขนมข้าวโพดอบกรอบ

ทํา IF กินอะไรได้บ้าง

4. เครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเครื่องดื่มบางชนิดสามารถดื่มระหว่างการทำ IF ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการลดน้ำหนัก แต่ความจริงคือเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงสามารถทำให้ร่างกายหยุดเผาผลาญไขมัน และกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มต่อไปนี้

  • นมปรุงแต่ง เช่น นมรสหวาน นมข้นหวาน นมถั่วเหลืองที่เติมน้ำตาล
  • น้ำผลไม้กล่อง ซึ่งมักมีน้ำตาลสูงแม้ว่าจะเป็นน้ำผลไม้แท้ 100% ก็ตาม
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ เหล้าค็อกเทล ซึ่งมีแคลอรีสูงและส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย

หากคุณต้องการทำ IF ให้ได้ผลและใช้เป็น วิธีลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกอาหารที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ร่างกายหลุดจากโหมดเผาผลาญไขมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรให้ความสำคัญกับอาหารที่ให้พลังงานที่ดีต่อร่างกาย และช่วยให้คุณสามารถทำ IF ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำลายผลลัพธ์ที่ต้องการ

เคล็ดลับทำ IF ให้เห็นผลเร็ว ไม่ทรมาน


หากคุณกำลังมองหาวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผล การทำ IF เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น แต่หลายคนยังสงสัยว่า ทํา IF กินอะไรได้บ้าง และควรปรับตัวอย่างไรให้เห็นผลเร็วที่สุด โดยไม่รู้สึกทรมานหรือหมดกำลังใจกลางทาง

  1. เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนและไขมันดี  การทำ IF จะมีช่วงเวลาที่อดอาหาร ดังนั้น การเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดี เช่น อกไก่ ปลา ถั่ว อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก จะช่วยให้อิ่มนานและลดความอยากอาหารได้ดี
  2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ลดอาการหิวระหว่างช่วงอด  บางครั้งร่างกายอาจสับสนระหว่างความกระหายน้ำกับความหิว การดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ หรือเลือกเครื่องดื่มที่ไม่กระทบต่อกระบวนการเผาผลาญ เช่น กาแฟดำ หรือชาไม่ใส่น้ำตาล จะช่วยลดอาการหิวได้และยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
  3. ปรับช่วงเวลากินให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ไม่จำเป็นต้องทำ IF ในช่วงเวลาเดียวกันกับคนอื่น ควรเลือกช่วงที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน เช่น หากทำงานกลางคืน อาจเลือกช่วงกินอาหารที่สอดคล้องกับตารางชีวิต เพื่อให้สามารถควบคุมแผนการรับประทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. หลีกเลี่ยงการกินมากเกินไปช่วง Feeding Window  หลายคนเข้าใจผิดว่าเมื่ออดอาหารมานานสามารถกินได้เต็มที่ แต่การรับประทานอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตขัดสี อาจทำให้ระดับอินซูลินพุ่งสูง ส่งผลให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพ ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะเผาผลาญไขมันได้อย่างต่อเนื่อง

ทํา IF กินอะไรได้บ้าง

เมื่อเข้าใจหลักการและเลือกอาหารให้ถูกต้อง การทำ IF จะช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องทรมานจากความหิว และยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น หากคุณสงสัยว่า ทํา IF กินอะไรได้บ้าง ให้เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักและรักษาสุขภาพระยะยาว หากคุณกำลังสงสัยว่า ทํา IF กินอะไรได้บ้าง การเลือกอาหารที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการ ลดน้ำหนัก ด้วยวิธีนี้ การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารที่เพียงพอในช่วงเวลากิน (Feeding Window) และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ร่างกายหลุดจากโหมดเผาผลาญไขมัน จะช่วยให้การทำ IF ได้ผลดีขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ วิธีลดน้ำหนัก ด้วย IF อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เพื่อลดความหิวระหว่างวันและช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันทรานส์ ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับอินซูลินและทำให้ผลลัพธ์ของ IF ลดลง

ทํา IF กินอะไรได้บ้าง เป็นคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบ เพราะการเลือกอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้สามารถ ลดน้ำหนัก ได้ตามเป้าหมาย ดังนั้น หากคุณต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ลองปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้สอดคล้องกับหลักการของ IF และเริ่มต้นเส้นทาง วิธีลดน้ำหนัก ของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่คุณต้องการ

ถาม-ตอบ เกี่ยวกับทํา IF 


  1. Q: ทํา IF กินอะไรได้บ้างระหว่างช่วงอดอาหาร?
    A: ดื่มน้ำเปล่า กาแฟดำ ชาไม่ใส่น้ำตาล และน้ำซุปใสได้ แต่ห้ามอาหารที่มีแคลอรี
  2. Q: ทํา IF แล้วกินผลไม้ได้ไหม?
    A: กินได้ในช่วงเวลาที่รับประทานอาหาร (Feeding Window) แต่ควรเลือกผลไม้ที่น้ำตาลต่ำ เช่น เบอร์รี่ อะโวคาโด
  3. Q: ทำ IF แต่ลดน้ำหนักไม่ลง ต้องแก้ยังไง?
    A: ตรวจสอบปริมาณอาหารที่กิน อาจได้รับพลังงานมากเกินไป หรือกินอาหารที่กระตุ้นอินซูลิน เช่น คาร์บขัดสีและน้ำตาล
  4. Q: ดื่มน้ำหวาน 0 แคลอรีระหว่าง IF ได้ไหม?
    A: ไม่แนะนำ เพราะสารให้ความหวานอาจกระตุ้นอินซูลินและทำให้การเผาผลาญไขมันลดลง
  5. Q: IF แบบไหนช่วยลดน้ำหนักได้เร็วที่สุด?
    A: 16/8 เป็นรูปแบบที่นิยมและทำได้ง่ายที่สุด เน้นกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดน้ำตาลและคาร์บแปรรูปเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ปรึกษาปัญหาลดน้ำหนัก

แชร์บทความดีๆ ให้ทุกคนได้อ่าน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart
0